
มิคาเอล โกโจ เอสเซียง (Michael Kojo Essien) หรือ มิคาเอล เอสเซียง นักเตะชาวกานา ผู้ที่ยังคงค้าแข้งอยู่ในวงการลูกหนังในตำแหน่งกองกลาง ด้วยอายุ 39 ปี กับ สโมสรฟุตบอลซาบาอิล เอฟเค ใน อาร์เซอไบจัน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของ ประเทศอาร์เซอไบจัน เอสเซียง เป็นคนขี้อาย พูดน้อย แต่เมื่อเขาอยู่ในสนามบอล เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีความดุดัน แข็งแรง และวิ่งในสนามตลอดเวลา 90 นาทีเต็ม ได้อย่างไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แฟนบอลจึงตั้งฉายาให้กับเขาว่า ไบซัน ซึ่งเป็นชื่อของ ควายป่า ชนิดหนึ่งที่มีความแข็งแรง บึกบึนมาก
เอสเซียง เขาเกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ในปี 1982 เขาเกิดและเติบโตที่เมืองอักกรา เมืองหลวงของประเทศกานา เขามีพี่สาวที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกันอีก 4 คน ซึ่งพ่อกับแม่ของเขาแยกทางกัน ในตอนที่เขาอายุได้เพียง 2 ขวบ แม้จะแยกทางกัน พ่อของเขาที่มีอาชีพเป็นเสมียน ก็แบ่งเวลามาดูแลเขาเป็นระยะ และเป็นคนพาเขาไปทดสอบฝีเท้าในทีมเยาวชนท้องถิ่น เนื่องจากพ่อของเขาก็เคยเป็นนักฟุตบอลในทีมท้องถิ่นอย่าง สโมสรโกลด์ โคสต์ จนพ่อของเขาได้ประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้เหมือนเดิม เขาและพ่อจึงไม่ค่อยได้เจอกันเหมือนเมื่อก่อน และกลายเป็นแม่ที่สวมบท แม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลเขาและพี่สาวมาตั้งแต่นั้น
มิคาเอล เอสเซียง กับ การเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังในทีมเยาวชน
มิคาเอล เอสเซียง เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์ ออกัสติน ในเมือง เคปโคสต์ ประเทศกานา เมื่อเขาเรียนจบจึงได้เริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังอย่างเต็มตัว ด้วยการเข้าไปเป็นเด็กฝึกที่ทีมเยาวชนของ สโมสฟุตบอลลิเบอร์ตี้ โปรเฟสชั่นแนล ในปี 1998 ในขณะที่เขาอายุได้ 16 ปี จนได้รับโอกาสจากทีมชาติกานา ให้ติดทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17) เพื่อทำการแข่งขัน ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี 1999 (FIFA U-17 World Championship 1999) ที่ประเทศนิวซีแลนด์

โดยฟอร์มของเขาได้โดดเด่นอย่างมาก จนถูกใจแมวมองในทีมจากประเทศยุโรปหลายทีม จนทำให้ในเดือนเมษายน ปี 2000 สโมสรชื่อดังจากเกาะอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เรียกตัวเขาไปติดทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17) และเขาได้ลงทำการแข้งขันในนัดที่พบกับ สโมสรดาร์บี้ เคาน์ตี้ และเขาก็โชว์ศักยภาพได้อย่างน่าประทับใจ จน ทัพปีศาจแดง ได้เจรจาให้เขาได้เซ็นสัญญากับทีม ซึ่ง เอสเซียง เองก็ได้ตอบตกลง และเขาก็ดีใจอย่างมาก เพราะ นักฟุตบอลที่เป็นไอดอลของเขา ก็คือ รอย คีน
แต่แล้วการเซ็นสัญญาก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจาก เอสเซียง ติดปัญหาในเรื่องของการขอใบอนุญาตการทำงาน สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงส่งตัว เอสเซียง ไปเข้าฝึกกับ สโมสรรอยัล อันท์เวิร์ป ทีมดังในประเทศเบลเยียม เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้เขาได้รับสัญชาติ EU และย้ายเข้ามาเล่นในประเทศอังกฤษได้
มิคาเอล เอสเซียง กับเส้นทางลูกหนังในสโมสรอาชีพ กับลีกในฝรั่งเศส
สโมสรเอสซี บาสเตีย (S.C. Bastia)
ในปี 2000 ในขณะที่เขาอายุ 18 ปี สโมสรเอสซี บาสเตีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นสโมสรในระดับลีกเอิง ของฝรั่งเศส ก็ได้เข้ามาเจรจา ยื่นข้อเสนอให้กับ เอสเซียง ซึ่งเขาเองมองว่าการได้ไปเล่นในระดับลีกเอิง ดีกว่าการเป็นนักฟุตบอลในทีมเยาวชนในเบลเยียมถึง 3 ปี เขาจึงตอบตกลงเซ็นสัญญากับ สโมสรเอสซี บาสเตีย และเขาก็ได้แสดงฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และพาทีมไปได้ไกลในศึก เฟรนช์ คัพ 2002 (French Cup 2002) จนถึงรอบชิงชนะเลิศ กับ สโมสรเอฟซี ลอริยองต์ แต่ก็คว้ามาได้แค่อันดับรองชนะเลิศ เพราะพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งไป 0-1

สโมสรโอลิมปิกลียง (Olympique Lyonnais)
จนกระทั่งในปี 2003 เอสเซียง ได้ย้ายไปยัง สโมสรโอลิมปิกลียง ด้วยค่าตัวกว่า 7.8 ล้านยูโร หรือประมาณ 280 ล้านบาท และเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่พาสโมสร คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสอย่าง ลีกเอิง ติดต่อกัน 2 สมัยซ้อน (ฤดูกาล 2003-04 และ ฤดูกาล 2004-05) จนได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในยุโรป และเป็น นักเตะระดับแนวหน้าของ ฝรั่งเศส เลยทีเดียว จนเขาได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของลีกเอิง ประจำฤดูกาล 2004-05 อีกด้วย ซึ่ง เอสเซียง ค้าแข้งอยู่ที่ ลียง เป็นระยะเวลาเพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น

มิคาเอล เอสเซียง กับการแจ้งเกิดที่ สโมสรเชลซี
ในปี 2005 ในขณะที่ เอสเซียง อายุได้ 23 ปี เขาได้เบนเข็มเส้นทางการค้าแข้ง ข้ามประเทศมายังเกาะอังกฤษ โดยเซ็นสัญญาเข้าเป็นนักเตะของ สโมสรเชลซี ด้วยค่าตัวกว่า 38 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,370 ล้านบาท ซึ่งเป็นดีลของนักเตะโซนแอฟริกา ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ณ ขณะนั้น

ซึ่งในฤดูกาลแรก 2005-06 ที่ แสตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็สามารถโชว์ฟอร์มเป็น มิดฟิลด์ตัวรับ ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง โดยเขาลงเล่นให้กับ สโมสรเชลซี เป็นครั้งแรกในฐานะนักเตะตัวจริง ในเดือนสิงหาคม 2005 ในนัดที่พบกับ สโมสรอาร์เซนอล โดยในฤดูกาลแรก เขาได้ลงสนามไปทั้งหมด 31 นัด และทำประตูไปได้ 2 ประตู
โดยในฤดูกาลอื่นๆถัดมา เขาได้เป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมประสบความสำเร็จได้อย่างมากมาย และเขายังได้ยิงประตูอันสุดทึ่งให้กับทีมจนตีเสมอคู่แข่ง ในนัดที่เจอกับ อาร์เซนอล ในเดือนธันวาคม ฤดูกาล 2006-07 และในฤดูกาล 2008-09 นัดที่เจอกับ บาร์เซโลน่า ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งทำให้ในนัดนั้น เชลซี ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้อีกด้วย ซึ่งการยิงประตูอย่างสุดสวยของเขาทั้ง 2 ลูก จาก 2 ฤดูกาล ทำให้ได้รับการโหวตให้เป็นประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของ เชลซี ทั้ง 2 ฤดูกาลเลยทีเดียว

โดยในฤดูกาล 2012-13 เขาได้ถูกสโมสร เรอัล มาดริด ทีมดังจากสเปน ยืมตัวไปค้าแข้งใน ลาลิกา ลีก เป็นเวลา 1 ฤดูกาล ซึ่งเขาได้ลงสนามไปทั้งหมด 20 นัด และทำประตูไปได้ 2 ประตู

เอสเซียง ค้าแข้งให้กับ สโมสรเชลซี เป็นระยะเวลานานถึง 9 ปี (2005-2014) เขาเป็นกองกลางพันธุ์ดุที่สามารถสร้างผลงานให้กับทีมได้อย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็นที่แจ้งเกิด และทำให้เขาเป็นที่รู้จักของแฟนบอลอย่างกว้างขวาง ซึ่งเขาลงสนามให้กับทีมทั้งหมด 256 นัด และทำประตูไปได้ทั้งหมด 25 ประตู โดยพาทีมคว้าแชมป์ได้หลายรายการ ดังนี้
• แชมป์พรีเมียร์ 2 สมัย (ฤดูกาล 2005-06 และ ฤดูกาล 2009-10)
• แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย (ฤดูกาล 2006-07 , ฤดูกาล 2008-09 , ฤดูกาล 2011-12 )
• แชมป์ลีก คัพ ฤดูกาล 2006-07
• แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2011-12
นอกจากนี้ เขายังได้รับ รางวัลนักเตะแอฟริกันแห่งปี ประจำปี 2006 ของสำนักข่าวดัง BBC และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สโมสรเชลซี ในปี 2007 อีกด้วย

มิคาเอล เอสเซียง กับการค้าแข้งในสโมสรอื่นๆ หลังออกจาก เชลซี
สโมสรเอซี มิลาน (A.C. Milan)
ในปี 2014 เอสเซียง ได้ทำการย้ายไปค้าแข้งให้กับ สโมสรเอซี มิลาน สโมสรดังในลีกเซเรียอา ลีกสูงสุดของอิตาลี โดยทำการค้าแข้งได้เพียง 1 ฤดูกาล (2014-15) เท่านั้น โดยเขาทำการลงเล่นให้กับ มิลาน ทั้งหมด 20 นัด แต่ไม่มีประตูเกิดขึ้นที่นี่

สโมสรพานาธิไนกอส (Panathinaikos)
ในปี 2015 เขาได้ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรใหม่อย่าง สโมสรพานาธิไนกอส สโมสรใน ซุปเปอร์ลีก ของประเทศกรีซ และทำการค้าแข้งที่นี่เพียง 1 ฤดูกาล (2015-16) เช่นกัน โดยเขาทำการลงเล่นให้กับ พานาธิไนกอส ทั้งหมด 13 นัด และทำประตูไปได้ 1 ประตู
สโมสรเปอร์ซิบ บันดุง (Persib Bandung)
ในปี 2017 เขาได้ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรเปอร์ซิบ บันดุง สโมสรใน ลีกา 1 ลีกสูงสุดของ ประเทศอินโดนีเซีย โดยเขาค้าแข้งได้เพียง 1 ฤดูกาล (2017-18) ทำการลงเล่นให้กับ เปอร์ซิบ บันดุง ทั้งหมด 29 นัด และทำประตูไปได้ 5 ประตู

สโมสรซาบาอิล เอฟเค (Sabail FK)
ในปี 2019 ในขณะที่ เอสเซียง มีอายุได้ 37 ปี เขายังคงเดินหน้าค้าแข้งใน เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพต่อไป โดยเขาได้ทำการเซ็นสัญญากับสโมสรซาบาอิล เอฟเค ในอาเซอร์ไบจัน พรีเมียร์ลีก โดยเป็นลีกสูงสุดในประเทศอาเซอร์ไบจัน และได้รับหน้าที่เป็น 1 ในทีมสตาฟโค้ชของ ทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ของสโมสรแห่งนี้อีกด้วย